
“Inside WatThai”
เว็บไซต์จะพาท่านพบกับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ศูนย์รวมศรัทธาที่อยู่คู่กับคนไทย โดยนำเสนอข้อมูลวัดที่น่าสนใจทั่วประเทศไทย เจาะลึกถึงประวัติความเป็นมา และเรื่องราวความประทับใจ ในแบบมุมมองที่คุณเห็นแล้วต้องรู้สึกอยากไป ผ่านภาพถ่ายมุมต่างๆที่สวยงาม เป็นแหล่งข้อมูลที่สายธรรมะจะพลาดไม่ได้ รวมถึงแนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรมที่น่าใจ การเดินทางที่มีพลังแห่งศรัทธา จะนำพาให้เราได้พบกัน รวบรวมสิ่งที่น่าสนใจต่างๆไว้ ที่นี่ !!!
หากท่านใดอยากแนะนำสถานที่ ที่น่าสนใจสามารถส่งข้อมูลให้ทางทีมเราที่ inside watthai
ที่มา “พระพุทธศาสนา” ในประเทศไทย
พระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ดินแดนประเทศไทย เมื่อประมาณ พ.ศ. 236 สมัยเดียวกันกับประเทศลังกา ด้วยการส่งพระสมณทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ 9 สาย โดยการอุปถัมภ์ของพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์อินเดีย ในขณะนั้นประเทศไทยรวมอยู่ในดินแดนที่เรียกว่าสุวรรณภูมิ ซึ่งมีขอบเขตกว้างขวาง มีประเทศรวมกันอยู่ในดินแดนส่วนนี้ไม่น้อยกว่า ๗ ประเทศ ได้แก่ ไทย พม่า ศรีลังกา ญวน กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ซึ่งสันนิษฐานว่ามีใจกลางอยู่ที่จังหวัดนครปฐมของไทย เนื่องจากได้พบโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่นพระปฐมเจดีย์ และรูปธรรมจักรกวางหมอบเป็นหลักฐานสำคัญ แต่พม่าก็สันนิษฐานว่ามีในกลางอยู่ที่เมืองสะเทิม ภาคใต้ของพม่า พระพุทธศาสนาเข้ามาสู่สุวรรณภูมิในยุคนี้ นำโดยพระโสณะและพระอุตตระ พระเถระชาวอินเดีย เดินทางมาเผยแผ่พุทธศาสนาในแถบนี้ จนเจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ ตามยุคสมัยต่อไปนี้
หน้าที่ชาวพุทธ
พระพุทธศาสนาได้เข้ามาสู่ดินแดนประเทศไทยมานานกว่า 2,000 ปี คนไทยยอมรับว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเกินกว่า 90% นับถือพระพุทธศาสนาเรียกตนเองว่าเป็น “ชาวพุทธ” รวมทั้งมีองค์พระมหากษัตริย์คนไทยเป็นองค์ศาสนูปถัมภกอีกด้วย
การประพฤติปฎิบัติธรรมตามคำสั่งสอนคือ การทำ “หน้าที่” ของพุทธบริษัท เพราะความหมายหนึ่งของธรรมะนั้นก็คือการปฎิบัติตามหน้าที่ ทำให้ได้รับผลเป็นความสุขความเจริญและดำรงพระพุทธศาสนาอยู่ได้ หากพุทธบริษัทปฎิบัติหน้าที่ไม่ถูกไม่ควรก็เป็นผลตรงกันข้ามฉะนั้น พุทธบริษัทต้องปฎิบัติ “หน้าที่ของชาวพุทธที่ดี” ดังนี้
หน้าที่ ตามหลักของพระพุทธศาสนาเป็น 3 ประการคือ
1. ละเว้นจากการทำบาปทั้งปวง
2. ถึงพร้อมด้วยการทำความดี
3. ทำจิตให้สดใสผ่องแผ้ว ผ่องใส
โดยปฏิบัติตามหลักโอวาทปาฏิโมกข์ ที่พระพุทธเจ้าได้ประทานไว้ให้อีกด้วย กล่าวคือ
ไม่ว่าร้าย ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น